รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมรับเสด็จฯ
เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโครงการเดินตามรอยพ่อและมรดกพ่อ ในวันพฤหัสบดี ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 – 13.00 น. ณ สำนักงานสหกรณ์การเกษตร เกษตรวิสัย จำกัด สาขานกเหาะ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จดทะเบียน วันที่ 18 เมษายน พุทธศักราช 2520 สมาชิกแรกตั้ง 176 ครอบครัว ปัจจุบัน (วันที่ 31 มกราคม 2567) มีสมาชิกทั้งสิ้น 8,910 ครอบครัว 156 กลุ่ม มีแดนดำเนินงานในอำเภอเกษตรวิสัย จำนวน 13 ตำบล 175 หมู่บ้าน สมาชิกทั้งหมด ประกอบอาชีพการทำนา อยู่ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ มีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ รวมทั้งสิ้น 158,490 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ทำนาในอำเภอเกษตรวิสัย สหกรณ์รวบรวมข้าวเปลือกในฤดูกาลผลิต 2566/67 จำนวน 86,518 ตัน รวบรวมจากสมาชิก ได้ 61,033 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 97 ของผลผลิตสมาชิกทั้งหมด) และรวบรวมจากเกษตรกรทั่วไป 25,485 ตัน
โดยสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จดทะเบียน วันที่ 18 เมษายน พุทธศักราช 2520 สมาชิกแรกตั้ง 176 ครอบครัว ปัจจุบัน (วันที่ 31 มกราคม 2567) มีสมาชิกทั้งสิ้น 8,910 ครอบครัว 156 กลุ่ม มีแดนดำเนินงานในอำเภอเกษตรวิสัย จำนวน 13 ตำบล 175 หมู่บ้าน สมาชิกทั้งหมด ประกอบอาชีพการทำนา อยู่ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ มีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ รวมทั้งสิ้น 158,490 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ทำนาในอำเภอเกษตรวิสัย สหกรณ์รวบรวมข้าวเปลือกในฤดูกาลผลิต 2566/67 จำนวน 86,518 ตัน รวบรวมจากสมาชิก ได้ 61,033 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 97 ของผลผลิตสมาชิกทั้งหมด) และรวบรวมจากเกษตรกรทั่วไป 25,485 ตัน
สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ก่อนจะพัฒนาเป็นสถาบันที่เข้มแข็งได้ทุกวันนี้ ในอดีตช่วงปี พ.ศ. 2525 - 2527 สหกรณ์ประสบภาวขาดทุน เกินกึ่งหนึ่งของทุนเรือนหุ้น ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ ที่ประชุมใหญ่ต้องประชุมพิจารณาว่า หากจะดำรงสหกรณ์นี้อยู่ จะต้องมีแผนการฟื้นฟูสหกรณ์ ประกอบกับช่วงระยะเวลาดังกล่าว สหกรณ์ได้เข้าร่วม “โครงการเสริมสร้างสหกรณ์การเกษตร” ซึ่งมีหน่วยงานหลักคือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาร่วมกันทำแผนฟื้นฟูสหกรณ์ ในแผนการฟื้นฟูดังกล่าว คณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เห็นพ้องต้องกันว่า สมาชิกต้องมีแผนหารายได้เพิ่ม จึงได้ริเริ่มอาชีพการเลี้ยงหมู เป็นอาชีพเสริมของสมาชิก สหกรณ์กำหนดแผนแก้ปัญหาหนี้ค้างชำระ โดยให้สมาชิกนำข้าวเปลือกมาส่งชำระหนี้แทน และได้ดำเนินการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจัดหาเมล็ดข้าวพันธุ์ดี ปุ๋ย มาจำหน่ายให้สมาชิก ในรูปเงินกู้โดยไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือสมาชิก ทั้งหมดคือจุดเริ่มต้นของการร่วมแรง ร่วมมือ ร่วมใจ การฟื้นฟูสหกรณ์ โดยมองเป้าหมายเดียวกัน คือ สมาชิกต้องมีอาชีพและมีรายได้ ปัจจุบันสหกรณ์มีความเข้มแข็งในทุกด้าน จากผลประกอบการ ณ วันที่ 31 มกราคม 2567 สหกรณ์มีทุนดำเนินงาน 3,460 ล้านบาท มีทุนเรือนหุ้น 224 ล้านบาท ทุนสำรอง 138 ล้านบาท ปริมาณธุรกิจสินเชื่อ 523 ล้านบาท ธุรกิจรวบรวมข้าวเปลือก 1,038ล้านบาท ธุรกิจแปรรูปข้าวสาร และผลพลอยได้ 235 ล้านบาท ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย 73 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ 16 ล้านบาท
สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ดำเนินงานตามหลักการและอุดมการณ์สหกรณ์ ให้ความสำคัญ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ คือ มิติด้านสมาชิก สหกรณ์เน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิก โดยขับเคลื่อนผ่านการประชุมกลุ่ม ประธานและเลขากลุ่มได้รับการฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้ทุกปี ทำงานเป็นโซ่ข้อกลาง ประสานงานระหว่างสมาชิกกับสหกรณ์ มิติด้านกรรมการ กรรมการคัดเลือกจากประธานกลุ่ม มีความเสียสละ มีธรรมมาภิบาลบริหารสหกรณ์ และต้องปฏิบัติตนเป็นผู้นำและตัวอย่างที่ดีให้แก่สมาชิกมิติด้านเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ เน้นรับสมัครจากลูกหลานสมาชิก ขยัน ซื่อสัตย์ และสหกรณ์ส่งเสริม ให้ศึกษาต่อหรือพัฒนาทักษะด้านความรู้ความสามารถให้ทันสมัยมิติด้านการจัดการ สหกรณ์มีธุรกิจหลักคือเรื่องข้าวจึงได้ลงทุนครอบคลุมทุกด้าน นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการเพาะปลูก รวบรวมและแปรรูป เน้นความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม
ทั้งนี้ สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ได้ดำเนินการจัดทำโครงการเดินตามรอยพ่อและมรดกพ่อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับบุตรหลานสมาชิก เยาวชน สถาบันการศึกษาและเกษตรกรทั่วไป เป็นการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของสมาชิก และสร้างความยั่งยืนให้ภาคการเกษตรโดยชักชวนเยาวชน บุตรหลานเกษตรกรสืบสานอาชีพการเกษตรทดแทนสมาชิกสูงวัย ซึ่งได้ดำเนินการโดยมีลูกหลานสืบสานทำการเกษตรแล้ว 113 ครอบครัว และสหกรณ์จะดำเนินการเพิ่มให้ได้ปีละ 50 คนต่อไป
